ชื่อของ มหาเทวาลัยพาร์เธนอน (Parthenon/Παρθενώνας) นั้นมีความหมายว่า"Temple of The Virgin
Goddess"
เพราะเป็นที่ประดิษฐานเทวรูปมหาเทวีอธีนา ในภาคหรือปางที่มีพระนามว่า อธีนา พาร์เธนอส
(Athena
Parthenos/Αθηνά Παρθένου)
คำว่า พาร์เธนอส โดยปกติแปลว่า maiden
หรือ girl แต่ก็หมายถึงสาวพรหมจารี
และหญิงที่ไม่แต่งงานด้วย
นอกจากจะใช้กับปมหาเทวีอธีนาแล้ว
จึงมักใช้กับเทพนารีองค์อื่น เช่น จันทรเทวีอาร์เตมีส (Artemis/ Άρτεμις) แต่ก็ไม่เป็นที่รู้จึก หรือได้รับความนิยมเท่าปมหาเทวีอธีนาหรอกครับ
เหตุที่ชาว่เอเธนส์บูชาปมหาเทวีอธีนาในถาคนี้
เป็นพระเป็นเจ้าสูงสุด ก็เพราะนิยามของคำว่า “หรหมจรรย์”
ในทางปรัชญากรีกนั้น ในแง่หนึ่งยังหมายถึง “ความปลอดภัย” อีกด้วย
ดังนั้น การบูชาอธีนา พาร์เธนอส
จึงเท่ากับเป็นการรับประกันความสงบสุข และความปลอดภัยของนครเอเธนส์ครับ
และเพราะเหตุดังกล่าว
เมื่อศาสนาคริสต์เข่าแทนที่ลัทธิศาสนาเดิมของเอเธนส์
มหาาเทวาลัยพาร์เธนอนจึงถูกปรับเปลี่ยนเป็นโบสถ์ของ พระแม่มารีย์ผพรหมจาริณี
(Virgin
Mary) หรือ Parthénos Maria ในช่วงปลายคริสตศวรรษที่
6
ส่วนเทวรูปองค์ประธานของเทวสถาน
ก่อนที่จะถูกทำลายนั้น เป็นเทวรูปฉลองพระองค์แบบนักรบ สวมหมวกเหล็กแบบขุนศึกกรีก
ถือเครื่องหมายแห่งชัยชนะ หรือ ไนกี (Nike กรีกออกเสียงว่า
นีกี Νίκη) พร้อมทั้งหอกและโล่
เทวรูปองค์นี้มีความสูงถึงราวๆ 12 เมตร
ทำจากหินอ่อนแกะสลัก แล้วบุผิวด้วยแผ่นงาช้างทั้งองค์
พัสตราภรณ์ก็ประดับแผ่นทองคำทั้งหมด
และเครื่องถนิมพิมพาภรณ์ก็คงหล่อด้วยทองคำฝังรัตนชาติ แก้วผลึก หินมีค่า และไข่มุก
ปัจจุบัน
เทวรูปองค์นี้ไม่เหลือแม้แต่ฃากให้เห็นครับ พวกคริสต์ที่รื้อทำลายเทวรูปองค์นี้
คงชื่นมื่นกับการลอกเอาแผ่นทองคำ แผ่นงาช้าง และรัตนชาติทั้งหมดไป
ส่วนเทวรูปหินอ่อนก็คงถูกทุบเป็นชิ้นๆ
ซึ่งสามารถนำไปแกะสลักเป็นศาสนวัตถุของชาวคริสต์ได้เช่นกัน
แต่เราด็ยังพอสันนิษฐานรูปลักษณ์ของเทวปฏิมาองค์นี้
จากที่ช่างโรมันจำลองแบบไว้ ซึ่งมีศ้พท์เรียกว่า วาร์วาไคออน อธีนา (Varvakeion
Athena/Βαρβανάκι Αθηνά)
ดังที่เห็นนี้ เป็เทวรูปหินอ่อนแกะสลัก สูง 1.05
เมตร คาดว่าน่าจะทำขึ้นในราวๆ ค.ศ.200-250 ปัจจุบันอยู่ที่ National
Archaeological Museum of Athens
วาร์วาไคออน อธีนาอีกองค์หนึ่ง ที่ช่างโรมันถ่ายแบบจากองค์จริงออกมาได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
คือองค์นี้ครับ ปัจจุบันจัดแสดงใน Pushkin Museum
เมื่อสอบทานกับบันทึกของชาวโรมัน
ที่ได้เห็นเทวรูปองค์จริง เทียบกับวาร์วาไคออน อธีนาทั้งสององค์แง้ว
นักประวัติศาสตร์ศิลปะก็มีข้อมูลเพียงพอที่จะ reconstruct อธีนา
พาร์เธนอส แห่งมหาเทวาลัยพาร์เธนอน ขึ้นมาได้ ดังที่เห็นในบทความนี้ละครับ
ในทางประติมากรรม ถือว่า
ช่างเอเธนส์กล้าหาญมากนะครับ ที่แกะสลักเทวรูปขนาดใหญ่โตมหึมา ให้ยกพระหัตถ์ขวาลอยๆ
ไว้แบบนี้ โดยไม่กลัวพระกรหัก
ดังนั้น องค์จริงจึงอาจจะมีเสารองรับพระกร หรือพระหัตถ์ขวาอยู่ก็ได้
ดังที่มีให้เห็นอย่างชัดเจนในวาร์วาไคออน อธีนา ทะเงสององค์
แต่เหตุที่งาน reconstruction
ส่วนใหญ่ของอธีนา พาร์เธนอส ไม่มีเสารองรับพระหัตถ์ขวา เป็นเพราะมีผู้สันนิษฐานว่า
ทั้งองค์เทวรูปคงใช้วิธีแกะสลักขึ้นเป็นส่วนๆ แล้วยกขึ้นไปประกอบกัน
เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะหาหินอ่อนแท่งใหญ่ขนาด 12 เมตรอยู่แล้ว
ซึ่งเมื่อประกอบแต่ละชิ้นเข้าด้วยกัน โดยมีแกนเหล็กยึดภายใน
ก็ไม่ต้องกลัวว่าพระกรจะหัก
ส่วนวาร์วาไคออน อธีนา ทั้งสององค์
แกะจากหินอ่อนเพียงแท่งเดียว ช่างโรมันไม่สามารถทำแกนเหล็กยึดไว้ภายในได้
จึงต้องแกะเสารองรับเพื่อไม่ให้พระกรหัก
และจะเห็นว่า
เขาทำฉลองพระองค์เป็นทองอร่ามทั้งชุด เพื่อให้สอดคล้องกับในบ้นทึกโบราณ
ในชณะที่งาน reconstruction ที่เผยแพร่กันออกมาก่อนหน้านี้
มักจะปิดทองบางส่วนเท่านั้น
ทุกอย่างยังคงเป็นการคาดเดานะครับ ด้วยว่า
ไม่มีองค์จริงเหลืออยู่ มีแต่องค์จำลองที่เป็นขนาดเล็กเท่านั้น
ส่วนที่เห็นนี้ คืออธีนา พาร์เธนอส ขนาดเท่าจริง
ภายในมหาเทวาลัยพาร์เธนอนจำลอง ที่แนชวิลล์
มลรัฐเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา
ซึ่งเป็นการ reconstruct จากเทวสถานเดิมในกรุงเอเธนส์
จากการศึกษาค้นคว้าทางโบราณคดีปัจจุบัน
ทำให้สันนิษฐานถึงรายละเอียดการตกแต่งภายในของมหาเทวาลัยพาร์เธนอนจริงๆ
ได้มากกว่าที่เห็นอยู่นี้
แต่ที่นี่ก็ทำให้พอนึกภาพความใหญ่โตของเทวสถาน
และเทวรูปอธีนา พาร์เธนอสได้เป็นอย่างดีครับ
...................................
หมายเหตุ :
เนื้อหาในบทความนี้ มีลิขสิทธิ์ ใครจะนำไปใช้อ้างอิงที่ใด ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมด จะต้องระบุ URL ของแต่ละบทความด้วย
และห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าโดยเด็ดขาด
No comments:
Post a Comment